BeauMonde 11 เมษายน 2565 ( 18:21) กระดูกเป็นส่วนประกอบในร่างกายที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากเรามีปัญหาเรื่องกระดูกแล้ว ก็จะส่งผลกระทบกับส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้ค่ะ เพราะกระดูกถือว่ามีความแข็งแรงทนทาน สามารถช่วยให้เราขยับเขยื้อนร่างกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ แต่หากเรามีปัญหาที่กระดูกกลับไม่ค่อยแสดงอาการจนกว่าจะอาการหนักค่ะ ดังนั้นการหมั่นบำรุงกระดูกจึงเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้เราจึงมี 5 วิธีเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงมาฝากกันค่ะ จะต้องทำแบบไหนบ้าง ดูได้ที่นี่เลยค่ะ 5 วิธีเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง 1. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรือรับประทานแคลเซียมแบบวิตามินเสริม ก็เป็นการช่วยบำรุงกระดูกได้ค่ะ โดยอาหารที่มีแคลเซียมสูงก็อย่างเช่น ปลาตัวเล็กตัวน้อย เต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง นม นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ถั่ว งาและผักใบเขียวเข้ม 2. เพิ่มวิตามินดีให้กับรางกาย การเพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยบำรุงกระดูกได้ค่ะ เพราะวิตามินดีสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้มากขึ้น และสามารถช่วยให้ร่างกายนำแคลดซียมไปใช้บไรุงกระดูกได้มากขึ้นค่ะ ซึ่งการเพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกายก็เพียงแค่ออกไปรับแสงแดดในตอนเช้าตรู่สัก 10 - 15 นาทีก็เพียงพอค่ะ 3.
การบริโภคอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างเนื้อกระดูกและป้องกันการสูญเสียเนื้อกระดูก พบได้จากกลุ่มอาหารจำพวกผักใบเขียว ได้แก่ บล็อกโคลี่ ผักกาดเขียว ผักกวางตุ้ง คะน้า แขนงผัก และดอกกระหล่ำ รองลงมาคือ นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ ตับ 1.
02-514-4141 ต่อ 1102 – 1105
title กระดูกที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างดีเท่าที่ควรก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ "โรคกระดูกพรุน" ได้ง่าย ซึ่งการป้องกันหลักๆ ที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ก็คือการ "กินแคลเซียม" เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก แต่การกินแคลเซียมที่นิยมนั้นจะช่วยได้จริงๆ หรือไม่? หากกินมากเกินไปจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า? มาหาคำตอบกัน ทำความเข้าใจเรื่อง "มวลกระดูก" กับอายุ กระดูกไม่ได้หยุดการเจริญเติบโตแค่ในช่วงวัยรุ่น แม้ว่าขนาดของกระดูกจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ "มวลกระดูก" จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามตัวเลขอายุ และกระดูกจะมีมวลสูงสุด เมื่ออายุ 25-30 ปี และคงที่ไปจนถึงอายุประมาณ 40 ปี หลังจากนั้นมวลกระดูกจึงค่อยๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 0. 3-0. 5% ต่อปี "กินแคลเซียม" ช่วยเสริมกระดูกได้จริงหรอ? ถ้าพูดถึงการเสริมกระดูกเพื่อป้องกันโณคกระดูกพรุน แน่นอนว่าเราจะนึกถึงอาหารเสริม อย่าง "แคลเซียม" ซึ่งหากถามว่าเราควรกินแคลเซียมเพื่อเสริมสร้างกระดูกหรือไม่? คำตอบคือขึ้นอยู่กับปริมาณแคลเซียมที่คุณได้รับจากอาหารในแต่ละวัน โดยปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับคือประมาณ800-1, 000 มก. ต่อวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การทานแคลเซียมให้เพียงพอควรทำต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงอายุยังไม่มาก เพราะเมื่อมวลกระดูกลดลงในช่วงอายุมากขึ้น เราก็ไม่สามารถทำให้มวลกระดูกกลับมาหนาแน่นเท่าเดิมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ การดูแลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลงอย่างช้าที่สุดนั่นเอง 5 เคล็ดลับรักษามวลกระดูก…ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน 1.
ศ.
ออกกำลังกาย เช่น การวิ่งเหยาะ เดินสลับวิ่ง เต้นแอโรคบิก เดินขึ้นบันได ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือกระโดดเชือก ส่วนในผู้สูงอายุควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การรำมวยจีน โดยออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไปจะทำให้กระดูกแข็งแรง 2. ทานแคลเซียมให้เพียงพอ โดยตามคำแนะนำของกรมอนามัย ระบุไว้ว่าผู้ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 800 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 1, 000 มิลลิกรัมต่อวัน 3. ทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ในกรณีที่ไม่สามารถทานแคลเซียมให้ได้ปริมาณตามที่กล่าวไปข้างต้น การทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ 4. เติมวิตามินดีให้ร่างกายด้วยการรับแสงแดดยามเช้า เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เราจึงควรออกไปรับแสงแดดในช่วงเวลาประมาณ 00-10. 00 น. เป็นเวลา 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้มากถึง 200 ยูนิตเลยทีเดียว 5. ลดพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นต้น รู้ไหม? ทานแคลเซียมมากไปก็เสี่ยงโรคได้นะ อะไรที่น้อยไปและมากไปย่อมไม่ส่งผลดี การทานแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก ท้องผูก การดูดซึมธาตุเหล็กและสังกะสีในร่างกายบกพร่อง หรือภาวะแคลเซียมเกาะตามผนังหลอดเลือด ดังนั้นการวางแผนในการทานอาหารเพื่อควบคุมปริมาณแคลเซียมให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ สอบถามรายละเอียด ศูนย์กระดูกและข้อ อาคาร 2 ชั้น 2 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 โทร.
การสร้าง เสริม และ ดำรง ประสิทธิ ภาพ การทำงาน ของ ระบบ กล้าม เนื้อ 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และมีปริมาณที่เพียงพอต่อต่อความต้องการของร่างกาย 2. ออกกำลังสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที โดยเน้นรูปแบบการบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆเป็นต้น 3. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดี 4. ควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักหรือหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะลักษณะงานที่ต้องทำงานอยู่ท่าเดิมนานๆจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนล้าและเกิดความไม่แข็งแรงได้ 5. เมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ เช่น มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์
sharebooklib.com, 2024