เรียนรู้การเงิน อัพเดทวันที่ 16 มี. ค.
มีเงินก้อนก็รีบโปะบ่อยๆ ซึ่งการคิดดอกเบี้ยของบ้านนั้นปกติจะเป็นการคิดแบบลดต้นลดดอก ดังนั้นหากเราผ่อนแค่ขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ก็อาจจะเสียดอกเบี้ยโดยรวมสูงเกินไป ซึ่งพอถึงใกล้ๆ 3 ปีบางทียอดที่ผ่อนจะกลายเป็นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเท่านั้น ดังนั้นหากเราหมั่นเอาเงินก้อนมาโปะหนี้บ่อยๆ ก็ยิ่งเป็นการทำให้ยอดหนี้ลดลง อย่างรวดเร็ว ดังนั้นช่วงนี้ถ้ามีโบนัสสิ้นปีก้อนโตๆ ก็อย่าเอาไปใช้หมด ควรมาโปะเพื่อลดต้นลดดอกดีที่สุด 4.
ก่อนอื่นผมต้องเล่าก่อนว่าผมผ่อนบ้านมากำลังจะครบ 3 ปี โดยปัจจุบันผมเสียดอกเบี้ยบ้านอยู่ที่ 4. 25% ต่อปี ซึ่งก็ต้องบอกว่าสูงอยู่นะครับ แล้วถ้าครบกำหนด 3 ปี ตามสัญญาในงวด 37 ดอกเบี้ยบ้านของผมจะอยู่ที่ 6% ซึ่งวันนี้ผมก็เลยจะมาบอกวิธีในการลดดอกเบี้ยบ้านกันครับ มีคนที่ซื้อบ้านหลายคนเข้าใจว่า ดอกเบี้ยบ้านได้ 6% ต่อปี ก็ถือว่าถูกแล้ว ยังจะลดดอกเบี้ยบ้านอีกหรอ? ผมอยากให้ลองทำความเข้าใจอย่างนี้ครับ ถ้าจะบอกว่าดอกเบี้ยบ้าน 6% นั้นถูกก็ไม่ผิดหากเรานำดอกเบี้ยนั้นไปเทียบกับสินเชื่ออื่น อย่างสินเชื่อบัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยไม่เกิน 16% ต่อปี หรือดอกจำนำทะเบี้ยที่ดอกเบี้ยไม่เกิน 24% ต่อปี แต่หากมองในกลุ่มสินเชื่อบ้านในปัจจุบันเราสามารถลดดอกเบี้ยให้เหลือเพียง 2% - 3% เท่านั้นครับ จากดอกเบี้ย 6% ลดเหลือ 3% ลดลงมานิดเดียวจะประหยัดได้สักเท่าไร บอกเลยว่าตลอดหลายปีที่ผมทำงานด้านนี้มามีคำถามแบบนี้เยอะมาก วันนี้ผมจะลองมาคำนวณคร่าวๆ ให้ดูละกันนะครับว่ามันจะลดได้กี่บาท สมมุติว่า ผมซื้อบ้าน 5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 30, 000 บาท ปัจจุบันยอดหนี้เหลือประมาณ 3.
เริ่มต้นที่ หมายเลข (1) วงเงินกู้หรือยอดหนี้ยอดแรกจำนวน 5, 300, 000 บาท จะถูกนำมาคำนวณดอกเบี้ยตามวิธีการปกติคือ [ (5, 300, 000×1. 25%) ÷ 365] x 30 จะได้จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระในงวดที่ 1 เท่ากับ 5445. 21 บาท ดัง หมายเลข (2) 2. จากนั้น นำจำนวนเงินที่จะต้องชำระต่องวด หมายเลข (3) คือ 34, 700 บาท มาหักลบด้วยจำนวนเงินที่ชำระดอกเบี้ย หมายเลข (2) ออก (34, 700 – 5445. 21) จะได้จำนวนเงินที่ชำระในงวดที่ 1 ซึ่งเหลือจากการชำระดอกเบี้ยเท่ากับ 29, 254. 79 บาท ดัง หมายเลข (4) ซี่งคือส่วนที่จะนำไปชำระเงินต้น 3. จำนวนเงินที่ชำระในงวดที่ 1 ซึ่งเหลือจากการชำระดอกเบี้ย หมายเลข (4) จะนำไปชำระเงินต้น ซึ่งก็คือการนำไปหักออกจากยอดหนี้ซึ่งคือ หมายเลข (1) ดังนี้ (5, 300, 000 – 29, 254. 79) จะได้ยอดหนี้คงเหลือ หมายเลข (5) เท่ากับ 5, 270, 745. 21 ซึ่งจะนำไปใช้เริ่มต้นคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ 2 ต่อไป ขั้นตอนการคำนวณดอกเบี้ย งวดที่ 2 1. เริ่มต้นที่ยอดหนี้คงเหลือหลังจากหักส่วนชำระเงินต้นของงวดก่อนหน้าแล้ว ในที่นี้คือยอดหนี้คงเหลืองวดที่ 1 ซึ่งคือ หมายเลข (5) เท่ากับ 5, 270, 745. 21 บาท นำยอดหนี้คงเหลือนี้มาคำนวณดอกเบี้ยตามวิธีการปกติ [ (5, 270, 745.
ผ่อนบ้านเบาๆสบายกระเป๋ามนุษย์เงินเดือน: ตอนที่ 2 เตรียมพร้อมแล้วเราจะผ่อนเดือนละเท่าไหร่ดีล่ะ 🤔💵 เมื่อเราพร้อมที่จะผ่อนบ้านแล้ว ถึงเรื่องที่สำคัญคือ เราควรจะผ่อนเท่าไหร่ดี ถึงจะสบายๆไม่ลำบาก ซึ่งก็ควรพิจารณาดังนี้ 1. ยอดเงินผ่อนหนี้ทุกประเภทต่อเดือนไม่ควรเกิน 35% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งเป็นเกณฑ์นี้ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ถือว่าไม่มากเกินไป โดยหากเรามีการผ่อนหนี้อย่างอื่นอยู่แล้ว ก็ต้องหักออกไปก่อนถึงจะประมาณการณ์เป็นยอดเงินผ่อนบ้านที่เหมาะสม เช่น ถ้าเรามีรายได้เดือนละ 50, 000 บาท และมีผ่อนรถไปแล้วเดือนละ 8, 000 บาท ก็ไม่ควรมีภาระผ่อนบ้านเกินกว่า 9, 500 บาทต่อเดือน ( รวมแล้วไม่เกิน 17, 500 บาทต่อเดือน) เป็นต้น 2. ควรเลือกการผ่อนแบบ "ผ่อนน้อยๆ แต่ผ่อนนานๆ" เราแนะนำให้ไปติดต่อกับธนาคารเพื่อดูเงื่อนไขเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ที่น้อยๆ โดยควรเลือกที่เป็นแบบดอกเบี้ยคงที่ก่อน ยิ่งคงที่มากกว่า3ปี ยิ่งดี เพื่อที่เราจะสามารถประมาณการผ่อนต่อเดือนได้แบบแน่นอน และควรเลือกระยะเวลาการผ่อนที่ยาว (ปกติจะไม่เกิน 30 ปี แต่เมื่อรวมอายุผู้กู้แล้วห้ามผ่อนเกินอายุ 65 ปี) เพราะ ยิ่งยาว ยอดผ่อนขั้นต่ำต่อเดือนก็ไม่สูง ซึ่งทำให้เราไม่ตึงเครียดด้านการเงินมากเกินไป 3.
ย. 2564
65% วิธีการคำนวณให้ได้ตามตารางตัวอย่างง่ายมากเลย!! เริ่มขั้นตอนคำนวณดอกเบี้ยงวดที่ 1 ก่อน โดยใช้ยอดแรกของวงเงินกู้เป็นตัวตั้ง ในตัวอย่างคือ กู้ได้ 3, 500, 000 บาท จะถูกนำมาคำนวณหาดอกเบี้ย ด้วยวิธี [(3, 500, 000 x 1. 65%) ÷ 365] x 30 ความหมายคือ นำวงเงินกู้ 3, 500, 000 บาท มาคูณกับอัตราดอกเบี้ยงวดแรกคือ 65% แล้วหารกับ 365 งวด คูณ 30 ปี (ซึ่งผ่อนบ้านระยะยาวปกติจะ 30 ปี) ก็จะได้ดอกเบี้ยที่ต้องชำระงวดที่ 1 คือ 4, 746. 58 บาท นั่นเอง นำยอดชำระงวดที่ 1 คือ 21, 500 มาลบกับ ดอกเบี้ยงวดแรก 4, 746. 58 คือ (21, 500 – 4, 746. 58) = 16, 753. 42 บาท ซึ่งส่วนนี้ จะกลายเป็นเงินต้นที่ต้องชำระ หลังจากนั้น นำจำนวนการชำระเงินต้นงวดที่ 1 ไปลบกับวงเงินกู้ครั้งแรกทั้งหมด คือ (3, 500, 000-16, 753. 42) ก็จะได้ยอดหนี้คงเหลือ 3, 483, 246. 58 บาท ซึ่งยอดคงเหลือนี้ จะถูกนำไปคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ 2 เรามาดูการคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ 2 กันต่อ!! นำมาคำนวณในลักษณะวิธีเดิม โดยการยกยอดเงินคงเหลือจากงวดที่ 1 มา คำนวณกับอัตราดอกเบี้ยงวดที่ 2 และระยะเวลาการผ่อน [(3, 483, 246. 58 x 1. 65%) ÷ 365] x 30 ก็จะเท่ากับ 86 บาท นั่นคือ ยอดชำระดอกเบี้ยในงวดที่ 2 นำยอดชำระงวดที่ 2 คือ 21, 500 มาลบกับ ดอกเบี้ยงวดที่ 2/ 86 คือ (21, 500 – 4723.
sharebooklib.com, 2024