90 2. ค่าลดหย่อนและยกเว้น หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ให้นำค่าลดหย่อนและยกเว้นมาหักจากเงินได้ โดยมีการลดหย่อนอยู่ดังต่อไปนี้ ผู้มีเงินได้และครอบครัว 1. ผู้มีเงินได้ ลดหย่อนได้ 60, 000 บาท คู่สมรส ค่าลดหย่อนคู่สมรส หากไม่มีเงินได้ลดหย่อนได้ 60, 000 บาท แต่ถ้ามีเงินได้ทั้งคู่ ให้หักลดหย่อนรวมกันได้ไม่เกิน 120, 000 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิตคู่สมรสที่อายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป สำหรับคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10, 000 บาท 3. บุตร ค่าลดหย่อนบุตรและบุตรบุญธรรม ลดหย่อนได้คนละ 30, 000 บาท โดยหากเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายนำมาลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากนำบุตรบุญธรรมมารวมลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 คน ค่าคลอดบุตร นำมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 60, 000 บาท 3. บิดามารดา ค่าอุปการะบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส นำมาลดหย่อนได้คนละ 30, 000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30, 000 บาท ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส นำมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15, 000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องบิดามารดาต้องมีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30, 000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือทุพพลภาพ ลดหย่อนได้คนละ 60, 000 บาท ค่าลดหย่อนอื่นๆ ของผู้มีเงินได้ 5.
ต่อเดือน มีค่าลดหย่อนเพิ่มแค่เรื่องของประกันสังคม ซึ่งเมื่อปี 64 รัฐมีการปรับลดเงินที่หักเข้าประกันสังคม ของปี 64 สูงสุดก็จะเป็นแค่ 5, 100 บ. ลองดูกันว่า จะเสียภาษีเท่าไหร่ เริ่มจาก เงินได้ทั้งปี 40, 000 บ. X 12 เดือน = 480, 000 บ. ต่อปี เป็นรายได้ 40(1) กฎหมายกำหนดว่า รายได้ 40(1) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100, 000 บ. ดังนั้นจะหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุด ตรงนี้ แค่ 100, 000 บ. ค่าลดหย่อน ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60, 000 บ. ประกันสังคม 5, 100 บ. เงินได้สุทธิที่ต้องนำไปคำนวณอัตราภาษี คือ 480, 000 – 100, 000 – 60, 000 – 5, 100 บ. = 314, 900 บ. มาดูกันที่อัตราภาษีแบบขั้นบันไดกัน ที่ต้องเริ่มกันที่ตั้งแต่ก้าวแรก หรือขั้นแรก แล้วบวกขึ้นไปเรื่อยๆ เริ่มกันที่ขั้นที่ 1 จากตาราง เงินได้ในขั้นแรก 150, 000 บ. แรก ไม่เสียภาษี ดังนั้น 150, 000 บ. แรกของเรา ขั้นนี้ ภาษีที่ต้องเสีย คือ 0 มาขั้นที่ 2 เงินได้ที่มากกว่า 150, 000 จนถึง 300, 000 บ. เสีย 5% ซึ่งช่วงนี้ ก็คือเงินได้ของเราในช่วงนี้ทั้งหมด คือ 150, 000 บ. ก็ต้องถูกนำมาคิดภาษี ในอัรา 5% ขั้นที่ 2 นี้ เราจะเสียภาษี = 150, 000 X 5% = 7, 500 บ.
นางจ่อมีเงินได้ จากการให้เช่าอาคารพาณิชย์ 500, 000 บาท นางจ่อจะหักค่าใช้จ่ายก่อนนำไปชำระภาษีเท่าใด เงินได้จากการให้เช่าอาคารพาณิชย์.............................................................. 500, 000 บาท 30...................................... …………. … 15 0, 000 บาท คงเหลือเงินได้..................................................................... 350, 000 บาท ข้อ 5. นายแดงเป็นข้าราชการ มีเงินได้สุทธิ 120, 000 บาท ยอดชายจะต้องชำระภาษีเงินได้เท่าไร ตอบ นายแดงไม่ต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะ เขามีเงินได้สุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนไม่ถึง 150, 000 บาท ตามตารางแสดงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้สุทธิไม่ถึง 150, 000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี ข้อ 6. นายดำเป็นข้าราชการบำนาญ มีเงินได้สุทธิ 250, 000 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 7, 000 บาท อยากทราบว่าเมื่อครบปีภาษี ธงชัยจะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือรับคืนเงินภาษีที่ชำระไว้เกินเท่าไร วิธีทำ จากตารางสำหรับคำนวณภาษีเงินได้สุทธิ 150, 000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี เหลือเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี 250, 000 – 150, 000 = 100, 000 บาท เงินได้สุทธิ 150, 000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี = 0 บาท เงินได้สุทธิ 100, 000 บาท ต้องเสียภาษี 5% = 100, 000 × = 5, 000 บาท ดังนั้น ต้องเสียภาษีเงินได้เป็นเงิน = 5, 000 บาท หักภาษี ณ ที่จ่ายที่ชำระไว้แล้ว = 7, 000 บาท ดังนั้น จะได้รับคืนภาษีที่ชำระไว้เกิน = 2, 000 บาท ข้อ 7.
sharebooklib.com, 2024