เมื่อหลายวันก่อนแอดมินไปซื้อของ และได้พบว่าแม่ค้าไม่สามารถตอบราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเป็นความเสียเปรียบในแง่การค้า เพราะหากฝรั่งเค้าไม่เข้าใจก็อาจจะทำให้เสียโอกาสในการขายของได้ วันนี้เราจึงมีประโยคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการซื้อของ ขายของ การบอกราคาให้คุณพ่อค้าแม่ค้าได้ลองไปฝึกใช้ และเพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้เรื่อง ตัวเลขไ ด้ที่นี่ค่ะ ประโยคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการค้าขาย มาดูประโยคคำถามกันก่อนค่ะ ฝรั่งจะถามเราว่า How much? ฮาว มัช แปลว่า เท่าไหร่ How much does it cost? ฮาว มัช ด๊าส อิท คอสท์ แปลว่า มันราคาเท่าไหร่ สินค้าชินนี้ราคาเท่าไหร่ ประโยคภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ How much does it cost to + (verb) เป็นการถามว่า สิ่งนั้นที่เราอยากจะได้หรืออยากจะทำนั้นมีราคาเท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น How much does it cost to repair my television? ค่าบริการในการซ่อมทีวีมีราคาเท่าไหร่ How much would it cost to wash my car? ค่าล้างรถราคาเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมีประโยคคำถามเกี่ยวกับราคาต่าง ๆ ได้อีกดังนี้ How much are the mangoes? มะม่วงราคาเท่าไหร่ (ซื้อหลายลูก) How much are those apples? แอปเปิ้ลพวกนั้นราคาเท่าไหร่ How much is the pork?
ต้องเช็คเอ้าออกตอนกี่โมงครับ I'd like to check out, please. ผมต้องการเช็คเอ้าครับ My room number is …xxx… ห้องของฉันเบอร์ …xxx… Where is the toilet? ห้องน้ำอยู่ที่ไหนครับ My room's not been made up ห้องของฉันยังไม่ได้ทำความสะอาด Could you please change the sheets? รบกวนช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ไหมครับ Could you please call me a taxi?
Asking for discount and making payment ขอลดราคาและการจ่ายเงิน · How much is it? (ราคาเท่าไหร่ครับ) · How much does it cost? (ราคาเท่าไหร่ครับ) · How much is it altogether? (รวมทั้งหมดราคาเท่าไหร่คะ) · Could (หรือ can)you give me a discount? (ลดราคาให้หน่อยได้ไหมคะ) · Would (could) you give me discount for cash? (ลดราคาให้หน่อยได้ไหมถ้าจ่ายเงินสด) · Do you have anything cheaper? (มีอะไรที่ถูกกว่านี้ไหม) · That's beyond my budget. (ราคานี้เกินงบผมนะ) · Can I get a discount? (ลดราคาให้ผมได้บ้างไหม) · How much do you think you can pay? (คุณคิดว่าคุณสามารถจ่ายได้เท่าไหร่ครับ) · Could (can) you come down on the price? (ลดราคาบ้างได้ไหม) · Could (can) you give me special price? (ขายให้ผมราคาพิเศษได้ไหม) · Could (can) you lower the price? (ช่วยลดให้หน่อยนะคะ) · Can (could) you give me a reduction? (ลดราคาให้หน่อยได้ไหม) · Is it on sale now? (ตอนนี้ลดราคาอยู่หรือเปล่าครับ) · Does it include tax? (ราคานี้รวมภาษีหรือยังครับ) · I'll give a 20% discount. (ชั้นจะลดให้คุณ 20% นะ) · How would you pay, cash or credit card?
การใช้ how much และ how many มีความแตกต่างกันอยู่นะครับ ใช้ไม่ถูกมันก็จะผิดหลักการภาษาของเขาได้ บางทีเราอาจไม่เห็นความต่าง…แต่สำหรับเจ้าของภาษาเขาจะบอกว่ามันไม่ถูก… การใช้ How much และ How many สองตัวนี้ค่อนข้างใช้ง่ายไม่สับสน จำไว้ง่ายๆว่า How much ถามปริมาณหรือราคา How many ถามจำนวน แต่ต้องจำโครงสร้างให้แม่นหน่อยเท่านั้นเอง หลักการใช้ How much ใช้ถามปริมาณ โครงสร้าง How much + นามนับไม่ได้ How much money do you have? ฮาว มัช มั๊นนิ ดุ ยุ แฮฝ (คุณมีเงินเท่าไหร่) One baht. วัน บาท (บาทเดียว) How much sugar do you want? ฮาว มัช ชู๊กะ ดุ ยุ ว็อนท (คุณต้องการน้ำตาลเยอะแค่ไหน) Two kilos, please. ทู คิโลส พลีส (สองกิโลครับ) How much rice do you eat in the morning? ฮาว มัช ไรซ ดุ ยุ อีท ทิน เดอะ ม๊อนิง (คุณกินข้าวเยอะแค่ไหนในตอนเช้า) About three plates. อะเบ้า ธรี เพลทส (ประมาณสามจาน) How much milk do you drink a day? ฮาว มัช มิลค ดุ ยุ ดริงค คะ เด (คุณดื่มนมเยอะแค่ไหนต่อวัน) Three glasses. ธรี แกล๊สเซ็ส (สามแก้ว) How much water do you use? ฮาว มัช ว๊อเทอะ ดุ ยุ ยูส (คุณใช้น้ำเยอะแค่ไหน) Ten bottles.
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วเรื่อง การใช้ภาษาอังกฤษสำหรับช็อปปิ้ง ตอนนี้เรามาเจาะลึกเรื่องของการถามราคาภาษาอังกฤษกันบ้างครับ ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้คำถามอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ How much is it? นั่นเอง ถ้าต้องการความหลากหลายแปลกใหม่ ลองเลือกใช้ประโยคต่อไปนี้ก็ได้นะ How much does it cost? What does it cost? What is the price? ถ้าโดนถามราคาจะตอบว่ายังไงล่ะ สำหรับพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายก็สามารถบอกไปง่ายๆเลยว่า "It's + ราคา" เช่น It's 120 Baht ทีนี้พอรู้ราคาแล้ว เราก็ตัดสินใจเลยว่าเอาหรือไม่เอา ถ้าเอาก็ให้พูดว่า That's a reasonable price – ราคาสมเหตุสมผลดีนะ I'll take it / I'll take this one – เอาอันนี้แหละ แต่ถ้าไม่เอา หรือต้องการเปลี่ยน/ลองอันใหม่ ให้ถามคนขายตามที่เราต้องการ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางสรีระหรือดีไซน์ก็แล้วแต่ เช่น The shirt's too baggy. Do you have a smaller size? – เสื้อหลวมไปนะ มีตัวเล็กกว่านี้มั้ย These shoes are too tight. Do you have a larger one? – รองเท้าคับไปค่ะ ขอคู่ใหญ่กว่านี้ได้มั้ย Tips: มีคนสับสนเรื่องคับๆหลวมๆของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม บ่อยมาก เคลียร์ให้ชัดเลยว่าถ้าขนาดพอดีให้ใช้คำว่า "fit" ส่วนถ้ามันคับให้ใช้คำว่า "tight" นะครับ เมื่อได้สินค้าที่ต้องการแล้ว ถ้ายังไม่พอใจกับราคาอีก – ลองดู การต่อรองราคาภาษาอังกฤษได้ที่นี่
รศ. ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร Jun 26, 2017 คำถาม: price กับ cost ต่างกันอย่างไรคะ ครูปุ๋ยขอตอบ: คำสองคำนี้มีความหมายใกล้กันมาก คือแปลว่า ราคา ลองดูตัวอย่างสองประโยคนี้นะคะ How much does the bag cost? หรือ What is the price of the bag? แต่อย่างไรก็ดีทั้งสองคำก็มีความหมายที่ต่างกันอยู่นิดหน่อยคือ cost สามารถหมายถึงค่าใช้จ่ายในการผลิต การดำเนินการทั้งหมด ส่วน price ราคาสินค้าที่เราต้องซื้อค่ะ ตัวอย่างประโยค The cost of making one cup of coffee is 30 Baht but they sell it for the price of 100 something Baht. ราคาต้นทุนของกาแฟแก้วนี้มูลค่า 30 บาทแต่พวกเขาขายในราคาร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว ไหนๆก็ไหนๆ ครูปุ๋ยแถมให้อีกหนึ่งคำนะคะ คำว่า "value" คำนี้ต้องออกเสียงว่า แวยู่ นะคะ ไม่ใช่แวลู่ ส่วนความหหมายของมันจะกว้างกว่า สองคำแรกค่ะ คำนี้หมายถึงมูลค่าของสิ่งของ หรือคุณค่าของสิ่งของนั้น อาจกว้างไปซึ่งค่านิยมของประเทศเลย และคุณค่าก็ไม่จำเป็นต้องตีค่าเป็นตัวเงินหรือมีราคานะคะ เช่น I got this bracelet from my grandmother. It might not cost much in the store, but the value of it can't not be measured in term of money.
สร้อยข้อมืออันนี้อาจจะไม่ได้ราคาแพงอะไร แต่คุณค่าของมันไม่สามารถตีราคาออกมาเป็นเงินได้เลย ไม่ได้คาดคิดว่ามุมภาษาอังกฤษวันนี้จะออกมาซึ้งขนาดนี้เลยค่ะคุณผู้อ่าน หากผู้อ่านทานใดมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับภาษาอังกฤษส่งคำถามมาได้เลยนะคะที่ศูนย์ประยุกต์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชค่ะ ครูปุ๋ยจะอัพเดทบล๊อกทุกอาทิตย์ค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะผู้อ่านทุกท่าน Featured Posts Recent Posts Archive Search By Tags Follow Us
sharebooklib.com, 2024